1.ทฤษฎีหลักสูตร


3.การพัฒนาหลักสูตร

การพัฒนาหลักสูตร
  การพัฒนาหลักสูตรเกี่ยวข้องกับการพิจารณาและการกำหนดเป้าหมายว่าหลักสูตรที่จัดทำนั้นมีเป้าหมายเพื่ออะไร ทั้งโดยส่วนรวมและส่วนย่อยของหลักสูตรนั้นๆ อย่างชัดเจนการคัดเลือกกิจกรรม วัสดุประกอบการเรียนการสอน การเลือกสารเนื้อหาสาระ กิจกรรมทั้งในทั้งนอกห้องเรียนการกำหนดระบบการจัดวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เหมาะสมแต่ละวิชาและแต่ละชั้นเรียน
  การพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการหรือขั้นตอนการตัดสินใจหาทางเลือก การเรียนการสอนที่เหมาะสม หรือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมต่างๆ เข้าด้วยกันจนเป็นระบบที่สามารถปฏิบัติได้นักพัฒนาหลักสูตรต้องคำนึงถึงภูมิหลังขององค์ประกอบต่างๆอย่างละเอียด และรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง และเมื่อตัดสินใจเลือกแล้วก็ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสิ่งอื่น การพัฒนาหลักสูตรมีข้อควรคำนึงหลายประการที่นักพัฒนาหลักสูตรต้องหาคำตอบ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจจัดทำหลักสูตร ไทเลอร์ ได้กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาหลักสูตรดังนี้
 จุดมุ่งหมายการศึกษาของโรงเรียนคืออะไร
การที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายของการศึกษาของโรงเรียนนั้น ต้องใช้ประสบการณ์การศึกษาอะไร
ประสบการณ์การศึกษาดังกล่าวจะจัดอย่างไร
คุณภาพของหลักสูตรได้มาอย่างไร
สำราญ คงชะวัน (2456 : 13-14)ได้สรุปว่าการพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการวางแผนและพัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียน  การเลือกจุดมุ่งหมายเนื้อหาวิชา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ ตลอดจนการวัดผลประเมินผล การเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้เรียน
   การพัฒนาหลักสูตรเป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลา ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปตามความเหมาะสมโดยอาจปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น หรือสร้างหลักสูตรและต้องดำเนินการให้เป็นไปตามความเหมาะสม ตามกระบวนการวางแผนและพัฒนาประสบการณ์ในการเรียนรู้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียน
    บุญชม ศรีสะอาด (2546 : 21-46 ) ได้กล่าวถึงแนวคิดพื้นฐานของการพัฒนาหลักสูตรต้องอาศัยพื้นฐานที่สำคัญ 5 ประการดังนี้
 พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ (historical foundation ) อิทธิพลของพื้นฐานดังกล่าวมี 2 ลักษณะ
 1.1  หลักสูตรที่พัฒนา มีความรู้ ผลการค้นพบ และแนวปฏิบัติที่เคยมีมาในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร
 1.2 ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการจัดการศึกษาในอดีตเป็นบทเรียนในการสร้างหลักสูตรใหม่
     2.  พื้นฐานทางปรัชญา (philosophical foundation ) ปรัชญามีส่วนในการสร้างหลักสูตรเนื่องจากปรัชญามีส่วนในการช่วยกำหนดจุดประสงค์และการจัดการสอน ซึ่งมีแนวปรัชญาต่างๆมากมาย
            2.1  ปรัชญาสารัตถนิยม (Essentialism) เชื่อว่าแต่ละวัฒนธรรมมีความรู้ ความเชื่อ ทักษะ อุดมการณ์ที่เป็นแกนกลาง หลักสูตรที่จัดตามแนวนี้ได้แก่ หลักสูตรแบบเนื้อหาวิชา(subject curriculum) และแบบสหสัมพันธ์( Broadfields  curriculum)
            2.2 ปรัชญาสัจนิยม (Perenialism ) เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือความสามารถในการใช้ความคิด ความสามารถในการใช้เหตุผล การตัดสินแยกแยะ และความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า การจัดหลักสูตรจึงเน้นความสำคัญของวิชาพื้นฐาน ได้แก่ การอ่าน  การเขียน และการคิดคำนวณ
              2.3  ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม(progressivism) เชื่อว่าผู้เรียนจะเรียนรู้ได้โดยอาศัยประสบการณ์ ผู้สอนแบบประสบการณ์หรือกิจกรรม
             2.4  ปรัชญาปฏิรูปนิยม(Reconstructionism) เน้นเรื่องชีวิตและสังคม ได้แก่ หลักสูตรที่ยึดหลักสังคมและการดำรงชีวิตและหลักสูตรแบบแกน
             2.5  ปรัชญาสวภาพนิยม(Existentialism) เชื่อว่าแต่ละคนกำหนดชีวิตของตนเองได้แก่ หลักสูตรเอกัตภาพเน้นการให้เสรีแก่ผู้เรียนมากที่สุด
        3.  พื้นฐานจากสังคม (Sociogical foundation) หลักสูตรได้รับอิทธิพลจากสังคมมากที่สุดสมาชิกในสังคมเป็นผู้สร้างและพัฒนาโรงเรียน รากฐานทางสังคมที่มีต่อการสร้างและพัฒนาหลักสูตรและการเปลี่ยนแปลงของสังคมก็มีผลทำให้หลักสูตรต้องเปลี่ยนแปลงด้วย
         4.  พื้นฐานจากจิตวิทยา(Psychologial foundation) จิตวิทยามีส่วนสำคัญต่อการสร้างหลักสูตรและการสอน โดยเฉพาะจิตวิทยาพัฒนาการและจิตวิทยาการเรียนรู้
             4.1  จิตวิทยาพัฒนาการ การที่จะช่วยให้แต่ละบุคคลมีพัฒนาการที่เหมาะสมที่ใช้เป็นแนวทางในการวางแผนหลักสูตร ได้แก่ พื้นฐานทางชีววิทยาของความแตกต่างระหว่างบุคคลวุฒิภาวะทางร่างกาย พัฒนาการ และวัฒนธรรม ซึ่งผลการวิจัยของนักทฤษฎีพัฒนาการ กล่าวว่า งานพัฒนาการแต่ละวัยนั้น ถ้าหากประสบความสำเร็จในการพัฒนาในงานใด ก็จะทำให้มีความสุขและส่งผลต่อความสำเร็จในงานต่างๆ ทฤษฎีพัฒนาการ Erikson’ s ที่เชื่อว่าพัฒนาการ แต่ละชั้นถ้าได้รับการส่งเสริมตามต้องการจะเกิดความพึงพอใจและมั่นใจสามารถพัฒนาการขั้นตอนไปได้อย่างสมบูรณ์เป็นผลให้มีบุคลิกภาพดีแต่ถ้าท่านใดไม่ได้รับการส่งเสริมจะเกิดความคับข้องใจเกิดความไม่พอใจและเป็นผลเสียต่อบุคลิกภาพ ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาที่เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กตั้งแต่แรก จนกระทั่งถึงวัยที่มีสติปัญญาอย่างสมบูรณ์
            4.2  จิตวิทยาการเรียนรู้ ทฤษฎีจิตวิทยาเป็นพื้นฐานสำคัญของเนื้อหาหลักสูตรและกิจกรรมการสอน  ทฤษฎีที่สำคัญ ได้แก่
                  4.2.1  ทฤษฎีที่เน้นการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง (S-Rcondition) ได้แก่ ทฤษฎีการเสริมแรงและทฤษฎีเงื่อนไข นักจิตวิทยากลุ่มนี้ได้แก่ธอร์นไดค์และสกินเนอร์
                  4.2.2  ทฤษฎีสนาม(Field theory)  แนวคิดของทฤษฎีนี้คือ ส่วนรวมทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญมากจะต้องมาก่อนส่วนย่อย ทิดสะดีที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ  ทฤษฎีพุทธินิยมและทฤษฎีมนุษยนิยม
                   4.2.3   ทฤษฎีผสมผสาน (Integrated theory) มีแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญคือ การศึกษาเกี่ยวกับการเรียนรู้ การผสมผสานระหว่างทฤษฎีเชื่อมโยงสิ่งเร้ากับการตอบสนองและทฤษฎีสนาม
                     4.2.4  ทฤษฎีการเรียนรู้ในโรงเรียนของ Bloom เป็นทฤษฎีที่เน้นพื้นฐานเดิมของผู้เรียน และคุณลักษณะของแต่ละคน
       5.  พื้นฐานจากวิชาการเรียนรู้ต่างๆ ความรู้ของวิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งความรู้ทางอาชีพ เป็นรากฐานของการเรียนรู้ของผู้เรียน การสร้างหลักสูตรจึงต้องมุ่งให้ผู้เรียนมีความเข้าใจมโนทัศน์ (Concept)  และวิธีการของวิชานั้น
      การนำหลักสูตรไปใช้และการประเมินหลักสูตร ไทเลอร์ ได้กำหนดกระบวนการวางแผนหลักสูตรและให้ข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้บังเกิดผลดีต่อผู้เรียน โดยเสนอแนะว่าสิ่งที่ต้องคำนึงในการวางแผนหลักสูตร อะไรคือจุดมุ่งหมายของการศึกษาที่ต้องการให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาปฏิบัติ ทำอย่างไรจึงจัดประสบการณ์การศึกษาให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายกำหนดไว้ ทำอย่างไรจึงจัดการประเมินประสบการณ์การศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      ทาบา ได้เสนอรูปแบบการวางแผนกระบวนการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนตามความเชื่อเกี่ยวกับผู้เรียนที่มีพื้นฐานแตกต่างกันโดยกำหนดกระบวนการวางแผนพัฒนาหลักสูตรไว้ 7 ขั้นตอนดังนี้
             1  การวินิจฉัยความต้องการของผู้เรียน ต้องเริ่มจากการค้นหาความต้องการของผู้เรียนโดยวิเคราะห์ช่องว่าง จุดบกพร่องและหลังของผู้เรียน
              2 การกำหนดจุดมุ่งหมาย หลังจากวิเคราะห์หาความต้องการของผู้เรียนแล้ว ผู้วางแผนพัฒนาหลักสูตร ต้องกำหนดจุดมุ่งหมายที่ต้องการ โดยใช้คำว่าเป้าหมายหรือจุดหมาย
              3  การเลือกเนื้อหา เนื้อหาที่กำหนดในแต่ละหัวข้อจะต้องมาจากจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
              4 การเรียงลำดับเนื้อหา การเลือกเนื้อหาในแต่ละหัวข้อ จะต้องตัดสินใจว่าจะจัดลำดับเนื้อหาอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับวุฒิภาวะ ความพร้อม และผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
            5  การเลือกประสบการเรียนรู้ ผู้วางแผนหลักสูตรจะต้องเลือกหรือกำหนดวิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนรู้เนื้อหาที่กำหนดไว้
             6  การเรียงลำดับประสบการณ์เรียนรู้ ผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องหาวิธีการจัดเรียงลำดับให้กิจกรรมการเรียนรู้ผสมกลมกลืนกันอย่างมีประสิทธิภาพ
            7 การกำหนดรูปแบบการประเมินผลและแนวทางในการปฏิบัติตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องคำนึงถึงการบรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตรที่พัฒนาขึ้น รู้แบบการประเมินที่ดีคือ การที่ครูผู้สอนใช้เทคนิควิธีการหลายวิธีเหมาะกับผู้เรียน
     ชูศรี สุวรรณโชติ(2542 :  97-99) ได้หาแนวคิดกระบวนการวางแผนการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้
             1  การศึกษาปัญหาหรือกำหนดปัญหา เป็นขั้นแรกของการวางแผนเพื่อพัฒนาหลักสูตรซึ่งผู้พัฒนาหลักสูตรต้องรู้ถึงสภาพปัญหาและความต้องการของสังคมในทุกๆด้าน
             2  การกำหนดข้อมูลเพื่อให้สอดคล้องกับปัญหา เป็นสิ่งที่ช่วยในการวางแผนพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องแน่นอน ข้อมูลที่กำหนดจะต้องเป็นข้อมูลที่สนองต่อปัญหาที่ได้รับจากการศึกษา
             3 การกำหนดสมมติฐาน การวางแผนพัฒนาหลักสูตรทุกครั้งต้องกำหนดสมมติฐานไว้เสมอว่า หลักสูตรจะต้องพัฒนาจะบังเกิดผลอย่างไรต่อผู้เรียน สมมติฐานของการพัฒนาหลักสูตรจะเป็นทางบวกมากกว่าทางลบ
             4  การกำหนดแนวทางในการดำเนินงานเป็นขั้นตอนที่ต้องกำหนดการพัฒนาหลักสูตรโดยกำหนดกระบวนการตั้งแต่ต้นจนสำเร็จลุล่วง ขั้นตอนเหล่านี้ต้องกำหนดเวลาที่แน่นอน
             5  การเลือกบุคลากรมาใช้ในการพัฒนาหลักสูตร ผู้กำหนดแผนต้องกำหนดตัวบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นเป็นอย่างดี 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น