วีดีโอคิดยกกำลังสองทักษะสำหรับโลกในอนาคต


สำหรับคนในโลกยุคปัจจุบันที่ต้องเตรียมตัวตัวพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้ทันต่อความสามารถของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้นจะต้องมีทักษะสำหรับโลกอนาคตหรือที่เรียกว่าทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ก็คือการเรียนรู้ด้วยตนเอง และต้องเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องยึดถือตำราเรียนแบบเดิมอยู่เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็วมากข้อความรู้เดิมจะไม่สามารถนำไปใช้ในอนาคตได้ ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตเรียนตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา สำหรับผู้สอนจะต้องเตรียมตัวนักเรียนสำหรับงานที่ยังไม่มี โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด และแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรในวันนี้ สิ่งนี้คือความยากความท้าทายของเด็กในอนาคต
การเตรียมตัวตัวพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้ทันต่อความสามารถของ Ai เพราะในอนาคตนักเรียนจะต้องแข่งขันกับปัญญาประดิษฐ์หรือ Ai ดังนั้นผู้สอนควรเร่งปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ ต้องเตรียมตัวนักเรียนสำหรับงานที่ยังไม่มี โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด และแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตคือเรียนรู้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยชรา 
ทักษะที่สำคัญ คือ ทักษะที่ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนแบบเดิมคือเน้นตัว ตัวเดียวคือ Information คือการเอาเท็จจริงเอาข้อมูลจากห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การเรียนแบบนี้จะมีประโยชน์น้อยลง การเรียนแบบวิทยาศาสตร์ที่สู้ Ai ได้ควรจะมี 4
การเรียนแบบวิทยาศาสตร์ที่สามารถสู้ Ai หรือปัญญาประดิษฐ์ได้นั้น ควรจะมี 4ซึ่งได้แก่
         1. Imagination (จินตนาการ) คือการสร้างภาพขึ้นในใจ
         2.Inspiration (แรงดลใจ) คือสิ่งที่ทำให้มีแรงขับเคลื่อน
         3.Insight (ความเข้าใจลุ่มลึก) คือ รู้อย่างลึกซึ้ง
        4.Intuition (ญาณทัศน์) คือ ความรอบรู้จัดเจน สามารรู้โดยอัตโนมัติ
ในการสู้กับAi ควรมีทักษะแห่งโลกหรือทักษะแห่งศตวรรษที่ 21หรือ  ASK ได้แก่
        A  =  Attitude (ทัศนคติ+อุปนิสัย) คือ แนวความคิดเห็นความรู้สึกนึกคิดที่บุคคลมีต่อสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งตนเอง โดยมีเหตุผลประกอบ
         S  =  Skill (ทักษะ) คือ ความชำนาญในด้านต่างๆ
         K  = Knowledge (ความรู้) คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเรียน
         การเรียนปัจจุบันเน้น มากเกินไป เน้น Aและ น้อยเกินไป การเรียนการสอนต้องเป็นการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนมีบทบาทมากขึ้น และเปลี่ยนจากการเรียนรู้โดยการฟังเป็นการเรียนรู้โดยการปฏิบัติลงมือทำ
เรียนรู้โดยผู้เรียนมีบทบาท (active learning)
ระดับการเรียนรู้
-ฟัง น้อยกว่า  20%  
-เล่น  20-75%
-ทำ มากกว่า 75%  
ดังนั้น จึงเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ให้ผู้สอนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น